top of page

เจาะลึกกับเรื่องที่คุณต้องรู้ SAT Reading

สวัสดีจ้าน้องๆ ที่น่ารักทุกคน วันนี้ The Pillars จะมาบอกความลับของข้อสอบ SAT Verbal Reading ให้น้องๆ ได้รู้กันสักทีว่าข้อสอบ มาจากที่ไหน แล้วเรื่องอะไร ที่ออกข้อสอบแน่ๆ เพื่อให้น้องๆ ได้มีแนวทางการเตรียมตัวก่อนสอบ นอกจากนี้พี่กุ้งยังมี Tips and Tricks ที่ไม่สามารถหาเจอได้จากในหนังสือเล่มไหน ถ้าน้องๆ ได้เอาไปใช้รับรองว่าคะแนน SAT Verbal Reading จะต้อง พุ่งกระฉูดอย่างแน่นอน


ถ้าน้องได้มีการหาข้อมูลประเภทของคำถาม SAT Reading น้องก็จะได้คำตอบที่มากมายและแตกต่างกันไป พี่กุ้งขอเบสจากทาง Collage Board ละกัน (เนื่องจากเป็นผู้ตีพิมพ์ที่ออกข้อสอบด้วย) ซึ่งเรารู้ๆกันอยู่ว่าเขาแบ่งประเภทของคำถามออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ (Informationa and Ideas, Rhetoric, Synthesis) สามารถ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://collegereadiness.collegeboard.org/pdf/official-sat-study-guide-about-reading-test.pdf


แต่เวลาที่เราทำข้อสอบจริงๆ เราไม่ต้องมานั่งแยกแยะว่ามันคือคำถามประเภทไหน สิ่งที่เราควรจะ focus คือ ทำให้ทัน ทำให้ถูก!!

 

หลักการของพี่กุ้งง่ายๆเลยคือ แยกคำถามออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่

  1. Big Question - จำไว้ง่ายๆคือคำถามที่ต้องอ่าน Passage เยอะๆ ส่วนมากมักจะใช้เวลานาน คำถามประเภท Main idea, Perspective, Author Attitude, Purpose เป็นคำถามที่ถามเกี่ยวกับใจความสำคัญของเรื่อง ลักษณะของคำถามประเภท Big Question ผู้เขียน (หรือผู้พูด) จะแสดงความรู้สึกออกมาในหลายรูปแบบได้ เช่น argument, opinion, explain, refute, criticize, examine, contrast, compare, report, advocates, counter, confirm, analyze ซึ่งมีการแฝงเนื้อหาที่เป็นด้านบวกหรือลบเอาไว้ด้วย ทำให้การหาคำตอบนั้นใช้เวลานานที่สุดเมื่อเทียบกับข้ออื่นๆ (Little Question) เพราะว่าน้องๆจะต้องอ่านเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ (ทั้ง paragraph บ้าง, ทั้ง passage บ้าง) เทคนิคง่ายๆคือ ให้เลือกทำคำถามประเภทนี้เป็นอันดับท้ายๆ เพราะคำตอบของคำถามประเภท Big Question จะค่อยๆปะติดปะต่อกันเมื่อทำข้ออื่น ๆ (Little question) เสร็จแล้ว ทำให้น้องๆไม่เสียเวลาในการทำข้อสอบมากจนเกินไป

  2. Little Question - Command of Evidence และ Supporting details ลักษณะของคำถามประเภทนี้ พี่กุ้งจะเรียกมันว่า “คำถามเจาะจง” เช่นถามถึงความหมายของคำ หรือประโยคนั้นๆ ซึ่งน้องสามารถหาคำตอบได้อย่างชัดเจนในตัว Passage เทคนิคง่ายๆ คือ หาประโยคหรือคำนั้นๆในตัว passage ให้เจอ เมื่อเจอแล้วให้น้องๆ วงเล็บ sentense ที่มีประโยคหรือคำนั้นๆอยู่ และให้ใช้เทคนิคการอ่าน Forward และ Backward (การอ่านประโยคก่อนหน้าและประโยคข้างหลัง คำนั้นๆ ไป 1-2 sentense) น้องๆจะได้คำตอบที่แม่นยำที่สุด

มาถึงตรงนี้น้องๆคง ได้รู้จักเทคนิคกันไปบ้างแล้วบางส่วน จะเห็นว่าบางข้อไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอ่านบทความด้วยซ้ำ แถมยังช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำข้อสอบได้เยอะเลยนะคะ

 

ถ้าลอง ย้อนไปดูข้อสอบเก่า ของหลายๆ ปีที่ผ่านมา น้องๆ จะเห็นว่าข้อสอบ SAT สามารถแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะ ของบทความ โดยแต่ละบทความนั้นถูกดึงมาจากเว็ปไซต์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้


  1. Natural Science ส่วนใหญ่เป็นบทความเกี่ยวกับพืช สัตว์ รวมทั้งแมลงต่างๆ และระบบนิเวศน์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผลงานวิจัยใหม่ๆ และบทความจะดึงมาจากเว็ปไซต์ https://www.aaas.org/ น้องๆ ลองเข้าไปอ่านดูกันได้นะคะ เผื่อฟลุ๊ก เจอบทความที่เอามาออกข้อสอบจะได้ไม่เสียเวลาอ่านค่ะ

  2. Social Science บทความลักษณะนี้จะเกี่ยวกับ psychology, economics, และ sociology ซึ่งบทความเหล่านี้จะเป็นผลงานวิจัยใหม่ๆ และส่วนใหญ่จะถูกนำมาจาก The Economist Newspaper หากน้องๆมีเวลาว่างลองหาอ่านดูได้เลยค่ะ https://www.economist.com/

  3. History เป็นบทความที่พูดถึงเหตุการณ์ในอดีต ดังนั้นคำถามที่มักจะเจอกับบทความประเภทนี้จะเกี่ยวข้องกับการลำดับการถ่ายทอดเรื่องราว หรือแสดงความคิดเห็นของผู้เขียน

  4. Literature เป็นบทความเกี่ยวกับ วรรณกรรมคลาสสิกและวรรณกรรมร่วมสมัย บทความเหล่านี้จะง่ายมากสำหรับน้องๆ ที่ชอบอ่านพวกนิยาย จึงทำให้ได้คะแนนในส่วนนี้ไม่ยาก แต่สำหรับสายวิทย์ที่มาสอบ SAT Reading แล้ว เจอข้อสอบแนวนี้ก็หนักเอาเรื่องเลยเหมือนกัน ดังนั้นอาจจะต้องมีการเตรียมตัวพอสมควรเลยนะคะ เมื่อเจอบทความแนวนี้ขั้นแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่าธรรมชาติของเรื่องแต่งคือการเขียนแบบ Narrative ไม่ใช่ Informative หรือ Argumentative เหมือนกับของ Science และ History ดังนั้นเวลาเราอ่าน เราต้องโฟกัสกับประเด็นอื่นมากกว่าแนวคิดหรือเหตุผล หลักๆเลยก็คือ

a ) Plot (เนื้อเรื่อง) Setting (สถานที่, วัน, เวลา) Shift (การเปลี่ยนมุมมองหรือการเปลี่ยนเรื่องที่กำลังเล่า)

b ) Characters (ตัวละคร ความสัมพันธ์ และความรู้สึกที่ตัวละครมีต่อกัน)

c ) Rhetorical techniques, Literary devices และ Word choice กลวิธีทางวรรณศิลป์ สำนวนผู้เขียน

และการใช้คำ

d ) Tone and mood อารมณ์และความรู้สึกในการเล่าเรื่อง

เวลาที่น้องๆ อ่านงานเขียนแนวนี้ต้อง ฝึกจับประเด็นเหล่านี้ออกมาให้ได้ รับรองว่าจะสามารถทำคะแนนในพาร์ทนี้ออกมาได้ดีแน่นอน

 

ตอนนี้น้องๆ คงได้รู้เกี่ยวกับเทคนิคในการทำข้อสอบ SAT Reading กันบ้างแล้วนะคะ คราวหน้า พี่ๆ The Pillars จะมาเล่าเทคนิคการทำข้อสอบ SAT Verbal Writing ให้น้องๆทราบกันค่ะ อย่าลืมติดตามกันกันค่ะ



1,779 views0 comments

Recent Posts

See All

Comments


bottom of page